23 นักเตะ กับ การเซ็นสัญญา แย่ที่สุด ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

23 นักเตะ กับ การเซ็นสัญญา แย่ที่สุด ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

อย่างที่แฟนบอลทั่วโลกโลกต่างทราบกันดีว่า พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลจากอังกฤษเป็นหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในโลกเสมอ และด้วยเหตุนี้ นักเตะต่างๆ จากทุกมุมโลกส่วนใหญ่จึงมีความใฝ่ฝันในการได้ร่วมลงเล่นในลีกนี้สักครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีนีกเตะหลายๆ คนที่มีโอกาสได้เข้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีกก็ตาม แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทำได้ดีตามที่ใครๆ คาดหวังจะให้เป็น

ต้องยอมรับว่าหลายๆ ครั้งมีการเซ็นสัญญาที่ไม่ดีตามที่หวังไว้อย่างมากมาย ที่เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต ซึ่งนักเตะบางคนก็ทำให้สโมสรต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากและทำผลงานได้ไม่ดีให้สมกับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไป และนี่คือตัวอย่างของนักเตะบางส่วนที่ล้มเหลวหลังจากเซ็นสัญญาเข้ามาอยู่ในลีกอังกฤษ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันนี้.

 

Table of Contents

อังเดร เชฟเชนโก้ – เชลซี (2006)

Andriy Shevchenko

เชฟเชนโก้ เป็นกองหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับ เอซี มลาน (AC Milan) แต่เขาประสบปัญหาในช่วงเวลาที่ เชลซี โดย โรมัน อับราโมวิช และทางสโมสรเชลซี จ่ายเงินไปมากกว่า 45 ล้านยูโรในปี 2006 ให้กับนักเตะกองหน้าชาวยูเครน แต่การมาเชลซีของเขา ก็ต้องกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำ  เขายิงได้เพียง 9 ประตูจากการลงเล่น 48 นัดให้กับสิงห์บลูส์ ในระยะเวลาทั้งหมดที่เขาเริ่มเซ็นสัญญากับสโมสร โดยยิงไปได้แค่ 22 ประตูจาก 77 นัด จากการอยู่ที่สิงห์บูล 2 ปี และถูกยืมกลับไปที่สโมสรเดิมอย่าง เอซีมิลานในฤดูกาล 2008-2009 ในที่สุด.

 

เฟร์นานโด ตอร์เรส – เชลซี (2011)

Fernando Torres

ตอร์เรส ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกองหน้าระดับโลก เมื่อตอนที่เขาอยู่กับลิเวอร์พูล เขามีชื่อเสียงและเป็นดาวเด่นของหงษ์แดง จนกระทั้งเขาได้ย้ายมาอยู่กับทีมสิงห์บูลเชลซี ทุกอย่างก็ดูเป็นปัญหาสำหรับเขาไปทั้งหมด โดยเชลซีจ่ายค่าตัวให้เขาที่ 50 ล้านปอนด์ในปี 2011 แต่ตลอดฤดูกาลเขากลับสามารถยิงไปได้เพียง 20 ประตู จากการลงสนาม 110 นัดให้กับสโมสรทั้งหมด.

 

อังเคล ดิ มาเรีย – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2014)

Ángel Di María

ดิ มาเรียเป็นผู้เล่นคนสำคัญของเรอัล มาดริด มาโดยตลอด เขาช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างน่าประทับใจ จนกระทั้งการย้ายมาที่ แมน-ยู ในปี 2014 เขาประสบกับปัญหาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างมาก โดยสโมสรจ่ายค่าตัวให้เขาในตอนนั้นที่ประมาณ 59.7 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากในขณะนั้น แต่เขาสามารถยิงไปได้เพียง 4 ประตูจากการลงสนาม 32 นัดให้กับสโมสรก่อนที่จะถูกขายให้กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในฤดูกาลถัดมา.

 

อัลแบร์โต อาควิลานี – ลิเวอร์พลู (2009)

Alberto Aquilani

อาควิลานี เป็นกองกลางที่มีพรสวรรค์ที่น่าสงสารที่สุด เขาต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ลิเวอร์พูล แม้สโมสรจ่ายเงินค่าตัว 17 ล้านปอนด์ ให้เขาในปี 2009 แต่เขาสามารถลงเล่นได้เพียง 18 นัดให้กับหงส์แดง ก่อนที่จะถูกยืมตัวและถูกขายให้กับเอซี มิลานในเวลาต่อมา.

 

เบเบ้ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2010)

Bebe

เบเบ้ เซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว  7.4 ล้านปอนด์ ในปี 2010 แม้ว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะยอมรับว่าเขาไม่เคยเห็นนักเตะรายนี้ลงเล่นด้วยตัวเองก็ตาม แต่เบเบ้ลงเล่นให้สโมสรไปเพียง 7 นัดและถูกขายให้เบนฟิก้าในเวลาต่อมา

แต่สิ่งที่แย่ที่สุดเกี่ยวกับเบเบ้ ไม่ใช่การที่เขามีค่าตัว 7.5 ล้านยูโร สิ่งที่แย่ที่สุดคืออเล็กซ์ เฟอร์กูสันเลือกเขามากกว่าเจมส์ โรดริเกซ เฟอร์กูสันสารภาพว่าเขาเซ็นสัญญาโดยไม่รู้จักเขาเลย เพราะเขาได้รับการแนะนำจากคาร์ลอส เคยรอซ.

 

โรบินโญ่ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2008)

Robinho

โรบินโญ่ กับการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ครั้งแรกของ แมน-ซิตี้ ก็ว่าได้ เพราะทางสโมสรพวกเขาทุ่มเงินสูงถึง 43 ล้านยูโร เพื่อดึงตัวเขาออกจากเรอัล มาดริดได้สำเร็จ ซึ่งนักเตะชาวบราซิลมีฤดูกาลแรกที่ดีมากๆ กับสโมสร แต่ในฤดูกาลที่สองเขาได้เล่นเพียง 12 เกมและจบลงด้วยการยืมตัวไปที่ซานโตส แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้แสดงเทคนิคการเล่นบอลของเขาที่เบร์นาเบวเลยสักครั้ง.

 

แอนดี้ แคร์โรลล์ – ลิเวอร์พูล (2011)

Andy Carroll

จากการทุ่มเงินไปให้กับ ตอร์เรส ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับกองหน้าร่างยักษ์จากนิวคาสเซิ่ล ในค่าตัวที่ 40 ล้านยูโร เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวจะปิดในปี 2011 แน่นอนว่าสิ่งที่รีบเร่งมักผิดพลาดเสมอ และแคร์โรลล์ก็สามารถทำประตูไปได้เพียง 6 ประตูจาก 44 เกมเท่านั้น.

 

ฮวน เซบาสเตียน เวรอน – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2001)

Juan Sebastián Verón

ยูไนเต็ดจ่ายเงิน 42.5 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัวลา บรูฮิต้าจากลาซิโอ และทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ณ เวลานั้น เขาอยู่กับแมนเชสเตอร์สองฤดูกาลก่อนย้ายไปเชลซีในปี 2003 ด้วยค่าตัว 22.5 ล้านยูโร ในลอนดอนเขาอยู่เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น.

 

มาริโอ บาโลเตลลี่ – ลิเวอร์พูล (2014)

Mario Balotelli

การจ่ายเงิน 20 ล้านยูโรเพื่อซื้อ ซูปเปอร์ มาริโอ้ ดูเหมือนจะเป็นการต่อรองที่ดี แต่จบลงด้วยการที่หงษ์แดง ต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างสูงให้กับเขา แต่เขากลับทำได้แค่ 4 ประตูตลอดการลงใน 20 เกมและเขาความรู้สึกขาดความมุ่งมั่นอย่างมาก การย้ายครั้งนี้จบลงด้วยการที่นักเตะกองหน้าอิตาลีต้องออกจากทีมและถูกยืมตัวไปมิลานในฤดูกาลถัดไป.

 

เอเดรียน มูตู – เชลซี (2002)

Adrian Mutu

กองหน้าอายุน้อยที่มีอนาคตไกล ที่เชลซีทุ่มเงินซื้อตัวเขามา 22.5 ล้านยูโร แต่วิถีชีวิตของเขา การปะทะกับรานิเอรีและมูรินโญ่ ตลอดจนผลการทดสอบยาสลบเป็นบวก ทำให้หนุ่มน้อยชาวโรมาเนียเขาต้องจบลงด้วยการที่ต้องคืนเงิน 17 ล้านยูโรให้เชลซี ถึงอย่างนั้นมันก็แพงมากๆ สำหรับเขา.

 

โรแบร์โต้ โซลดาโด้ – ท็อตแน่ม (2013)

Roberto Soldado

นักเตะกองหน้าที่มาจากบาเลนเซีย ที่ถูกซื้อมา 30 ล้านยูโร โดยทำได้เพียง 13 ประตูจาก 54 เกม นั้นทำให้เขาต้องกลับมาที่บาเลนเซีย หลังจากผ่านไปสองฤดูกาล และหลังจากยิงได้ 3 ประตูจาก 32 เกมเท่านั้น.

 

ร็อบบี คีน – ลิเวอร์พูล (2008)

Robbie Keane

นักเตะในตำนานชาวไอริช หงส์แดงได้เซ็นสัญญากับเขาในราคา 24 ล้านยูโร และขายเขาในปีต่อมาในราคา 16 ล้านยูโร พวกเขาได้เงินลงทุนคืนมาบางส่วน แต่ความรู้สึกแย่ๆ ของการเซ็นสัญญายังคงหนักอึ้งอยู่ที่แอนฟิลด์

 

ซาวิโอ เอ็นเซเรโก้ – เวสต์แฮม (2009)

Savio Nsereko

‘เดอะ ซัน’ ยกมิดฟิลด์รายนี้เป็นการเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เวสต์แฮมจ่ายเงิน 13 ล้านยูโรให้กับเบรสชาสำหรับนักเตะที่ลงเล่นเพียง 11 นัดและย้ายไปฟิออเรนติน่าในราคาหนึ่งในสามของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

 

มาร์โค มาริน – เชลซี (2012)

Marko Marin

เชลซีจ่ายเงิน 8 ล้านยูโรให้กับแวร์เดอร์ เบรเมน แทนที่การยืมตัวเควิน เดอ บรอยน์ พวกเขาทำสิ่งนี้เพื่อคว้าตัว มาร์โค มาริน ซึ่งถูกยืมตัวไปเซบีย่าหลังจบฤดูกาลในลอนดอนแต่นั้นถือเป็นดีลที่แย่และการตัดสินใจที่แย่ของสิงห์บลู.

 

เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ – ลิเวอร์พูล (2002)

El-Hadji Diouf

การมาของดิยุฟที่แอนฟิลด์ หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฟุตบอลโลก 2002 กับเซเนกัล แต่ที่ลิเวอร์พูล เขากลายเป็นผู้เล่นที่ไม่สำคัญโดยสิ้นเชิง ด้วยการทำผลงานไปได้เพียง 3 ประตูจาก 55 เกม

 

อัลเบิร์ต ลูเก้ – นิวคาสเซิ่ล (2005)

Albert Luque

การซื้อตัว ลูเก้ ของนิวคาสเซิ่ล ในราคา15 ล้านยูโรของเขาเป็นการลงทุนมหาศาล เพราะถึงแม้ว่าเขาได้เป็นดาวเด่นของเดปอร์ติโบ ลา คอรูญา แต่การทำประตูให้ที่นิวคาสเซิ่ลกลับเป็นเรื่องที่ล้มเหลว เพราะเขาทำประตูไปทั้งหมด 3 ประตูจาก 33 เกมในสองฤดูกาล

 

มิลตัน นูเญซ – ซันเดอร์แลนด์ (2000)

Milton Núñez

จากการเล่าขานกันว่าทีมซันเดอร์แลนด์ ต้องการเซ็นสัญญากับอดอลโฟ วาเลนเซีย เพื่อนร่วมทีมของมิลตัน นูเนซที่พีเอโอเคของกรีซ แต่พวกเขาดึงนูเญซเข้ามาแทนและไม่ได้ผลตามคาดไว้ เขามีโอกาสเล่นเพียงเกมเดียวตลอดทั้งฤดูกาล

 

บอสโก บาลาบัน – แอสตัน วิลล่า (2001)

Bosko Balaban

วิลล่า จ่ายเงินประมาณ 7 ล้านยูโรให้กับ สโมสร ไดนาโม ซาเกรบ (Dinamo Zagreb) สำหรับกองหน้าซึ่งเคยถูกเปรียบเทียบความเก่งกับ ดาวอร์ ซูเคอร์ แต่ภายในสองปีครึ่งเขาลงเล่น 11 เกม โดยเก้าเกมเป็นตัวสำรองและยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว

 

วินสตัน โบการ์ด – เชลซี (2000)

Winston Bogarde

โบการ์ด มีโอกาสเขาเล่น 11 เกมใน 4 ฤดูกาล แต่การที่ไปฝึกซ้อมและไม่เคยลงสนามเลย ตัวโบการ์ดเองก็ทึ่งกับค่าเหนื่อย 40,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และเขาก็รู้ว่าจะไม่ได้เงินจำนวนนั้นที่สโมสรอื่น ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่ลอนดอนจนถึงวันสุดท้ายของการค้าแข้งที่นี้.

 

โจซี่ อัลติดอร์ – ซันเดอร์แลนด์ (2013)

Jozy Altidore

ภายในปี 2010 อัลตีดอร์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในฐานะกองหน้าในพรีเมียร์ชิพ โดยยิงได้ 2 ประตูจาก 30 เกมที่ฮัลล์ ซิตี้ อย่างไรก็ตาม ซันเดอร์แลนด์ยอมจ่ายเงิน 8.5 ล้านยูโรให้กับเขาในอีก 3 ปีต่อมา ในสองฤดูกาลและ 50 เกมเขายิงได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น.

 

จูเนียร์ ลูอิส – เลสเตอร์ (2001)

Junior Lewis

ในสามปีที่เลสเตอร์ เขาเล่นเพียง 25 เกม ผลงานของเขาแย่มากจนเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟน ๆ ‘จิ้งจอก’ เกลียดเขามากที่สุด.

 

เย้า แชร์วินโญ่ – อาร์เซนอล (2011)

Yao Gervinho

กองหน้าชาวไอวอรี่โคสต์ค่าตัว 12 ล้านยูโรของอาร์เซนอล แต่ไม่เคยปรับตัวเข้ากับทีมปืนใหญ่ได้เลย เขาใช้เวลา 2 ฤดูกาลกับทีม โดยยิงได้ 11 ประตูจาก 63 เกม มันกลายเป็นผลตอบแทนที่น้อยมากๆ ให้สโมสร.

 

คริสเตียน เบนเตเก้ – ลิเวอร์พูล (2015)

Christian Benteke

ลิเวอร์พูลซื้อ เบเตเก้ ในราคา 32.5 ล้านปอนด์จาก แอสตัน วิลล่า เขายิงได้ 10 ประตูในฤดูกาลเดียวกับหงส์แดง ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย แต่เขาไม่เคยเป็นกองหน้าคุณภาพที่สโมสรต้องการ อย่างไรก็ตาม เขายิงลูกเตะเหนือศีรษะใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้แบบน่าทึ่ง ถึงอย่างไรลิเวอร์พูลยังคงได้รับ 27 ล้านปอนด์โดยการขายเขาให้กับคริสตัลพาเลซในเวลาต่อมา.

Last update: : June 20, 2023

Category: 8Xbet